iii โชว์กำไรโตโดดเด่น 37.2% จากแอร์คาร์โก้และเคมีภัณฑ์ ตั้งเป้าปีนี้ทุกธุรกิจเติบโตแรงกว่า 20% รับ EEC และเศรษฐกิจโต

21 กุมภาพันธ์ 2561

บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (iii) ผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์แบบครบวงจรของไทย โชว์ผลการดำเนินงานปี 60 เติบโตโดดเด่น ทำรายได้ 2,295 ล้านบาท กำไรพุ่ง 37.2% พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งแอร์คาร์โก ขนส่งเคมีและทางเรือ แถมพันธมิตรเปิดเพิ่มหลายเส้นทางบิน

นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ iii เปิดเผยว่า “บริษัทฯมีความยินดีที่จะรายงานผลประกอบการปี 2560 โดยบริษัทฯมีรายได้รวม 2,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.2% จากกำไรสุทธิ 95 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์มีการขยายตัวดีโดยเฉพาะธุรกิจขนส่งทางอากาศ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 71% ของรายได้รวมของบริษัทฯ และธุรกิจขนส่งเคมีภัณฑ์ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 21% ของรายได้รวม อีกทั้งบริษัทฯมีบริการที่หลากหลาย และครบวงจรอย่างแท้จริง สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ครบถ้วน ทำให้บริษัทฯมียอดขายเพิ่มขึ้น จากทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ ยิ่งกว่านั้น ธุรกิจยังตอบรับกับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการค้าของไทยจากโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯยังมีการบริหาร จัดการ ต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

นายทิพย์ กล่าวเสริมว่า “ ในปี 2561 นี้ บริษัทฯตั้งเป้าเติบโตประมาณ 20% จากการขยายธุรกิจใหม่ทั้งแอร์คาร์โกและสายเรือใหม่ ด้วยงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯได้ขยายธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ โดยในปีนี้ สายการบินไทยแอร์เอเชียและไทยแอร์เอชียเอ็กซ์ที่เป็นพันธมิตรหลักของบริษัทฯ ได้มีการขยายเส้นทางการบินเพิ่มขึ้น หลังการปลดล็อคมาตรฐานสนามบินนานาชาติของ ICAO พร้อมโฟกัสที่กลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ ซึ่งใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการขยายธุรกิจ ล่าสุด บริษัทฯมีการเปิดตัวคลังสินค้าระหว่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง พื้นที่ 5,000 ตารางเมตร โดยเริ่มให้บริการไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา คาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 80 %

ในธุรกิจขนส่งทางเรือ บริษัทฯคาดว่าจะมียอดขายเติบโตประมาณ 30% โดบบริษัทฯเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนเพียงรายเดียวในประเทศไทยของสายการเดินเรือ ริเชา (Rizhao Shipping Lines) ซึ่งเป็นสายการเดินเรือรัฐวิสาหกิจของเมืองริเชา อยู่ในมณฑลซานตง ทางตอนเหนือของประเทศจีน โดยเริ่มแรกมีเส้นทางการให้บริการครอบคลุม ในประเทศจีน (ริเชา เซี่ยงไฮ้) เวียดนาม (โฮจิมินห์) และไทย (ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือคลองเตย) ริเชา (Rizhao Shipping Lines) จากประเทศจีน ซึ่งถือเป็นการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทฯ ซึ่งมีบริษัทร่วมทุน เป็นตัวแทนสายการเดินเรือ CK Line ของเกาหลีใต้ และ ด้านขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ (LCL) จาก ECU Worldwide (Thailand) ซึ่งเป็นบริษัทฯร่วมทุน ซึ่งตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ในภูมิภาคอินโดจีน

ด้านกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย (Chemical & Specialty Logistics Business) นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลักที่บริษัทฯมีความเชี่ยวชาญ มีบุคลากรที่มีความรู้และความชำนาญเฉพาะด้านมีมาตรฐานระดับสากล ทำให้เป็นที่ไว้วางใจแก่ลูกค้าทั้งรายเก่าและรายใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ บริษัทฯ กำลังดำเนินการขยายคลังสินค้าเพิ่มขึ้นกว่า 3,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ในปีนี้จะมีพื้นที่คลังสินค้าเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตรายให้บริการไม่ต่ำกว่า 25,000 ตารางเมตรนอกเหนือจากคลังสินค้าเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตรายที่ให้บริการในโซนอุตสาหกรรม บริษัทฯ ยังเตรียมขยายพื้นที่คลังสินค้าเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในมากขึ้นอีกด้วย.