2539

บริษัท ทริพเพิล ไอ มาริไทม์ เอเยนซีส์ จำกัด (TMA) จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2539 ด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท โดยนายทิพย์ ดาลาล และนายวิรัช นอบน้อมธรรม เพื่อประกอบธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายเดินเรือให้บริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเล

ในเดือนพฤษภาคม 2541 TMA ทำการเพิ่มทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 3.0 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท

2542

กลุ่มผู้บริหารของ ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (TLG) ร่วมลงทุนกับบริษัท ECU HOLD NV จำกัด จัดตั้ง บริษัท เอ็คคู่ ไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2542 ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลแบบไม่เต็มตู้ ในประเทศไทย

2547

บริษัท ฮาซเคม โลจิสติกส์ แมเนจเมนท์ จำกัด (HLM) จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2547 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ภายในประเทศแก่ลูกค้าที่ต้องการขนส่งสินค้าเคมีและสินค้าอันตราย ด้วยทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท และต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2547 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 1.0 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 5.0 ล้านบาท

2550

บริษัท ทริพเพิล ไอ แอร์ เอ็กซ์เพรส จำกัด (TAX) จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเพื่อประกอบธุรกิจให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางอากาศ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2550 ด้วยทุนจดทะเบียน 5.0 ล้านบาท

2551
  • บริษัท ทริพเพิล ไอ อินเตอร์เฟรท จำกัด (บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด มหาชน - TLG ในปัจจุบัน) จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2551 เพื่อประกอบธุรกิจรับบริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร ด้วยทุนจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท
  • บริษัท ทริพเพิล ไอ เอเชีย คาร์โก จำกัด (TAC) จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2551 ด้วยทุนจดทะเบียน 5.0 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินเพื่อขนส่งสินค้าภายในประเทศและระหว่างประเทศทางอากาศแถบเอเชีย
  • TAC ได้รับการแต่งตั้งจากสายการบินไทยแอร์เอเชีย ให้เป็นตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน (Cargo GSA - General Sales Agent)
  • ต่อมา บริษัท ทริพเพิล ไอ อินเตอร์เฟรท จำกัด (บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด มหาชน - TLG ในปัจจุบัน) ทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 4.0 ล้านบาท เป็น 5.0 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนบริษัท
  • HLM ได้รับรางวัล Export Logistics Model Award (ELMA) 2008 ประเภทการจัดการด้านการให้บริการโลจิสติกส์ของธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ จากกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์
2552
  • TAX เริ่มให้บริการขนส่งไปรษณีย์ในประเทศและระหว่างประเทศแก่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.)
  • บริษัท จีเอสเอ เน็ตเวิร์ค โฮลดิ้ง จำกัด (“GNH”) จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2552 ด้วยทุนจดทะเบียน 5.0 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจรับบริการจัดการขนส่งระหว่างประเทศทางอากาศและลงทุนในบริษัทตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินที่ให้บริการรับจัดการขนส่งระหว่างประเทศทางอากาศในต่างประเทศ
  • GNH ร่วมลงทุนในบริษัท เอ็กเซล แอร์ (กวางโจว) จำกัด (“ECA-GZ”) จำนวน 2,500 ดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 25.0 บริษัท เอ็กเซล แอร์ (ฮ่องกง) จำกัด (“ECA-HK”) จำนวน 200,000 ฮ่องกงดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 20.0 และบริษัท เฟรท เวิร์ค จีเอสเอ (ฮ่องกง) จำกัด (“Freight-HK”) จำนวน 100,000 ฮ่องกงดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 20.0
  • บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ANI) จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2552 ด้วยทุนจดทะเบียน 1.25 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 50,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 25 บาท โดยมี GNH และบริษัท เอเชีย เซอร์วิสเซส จำกัด ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 57.0 และ และร้อยละ 40.0 ตามลำดับ เพื่อประกอบธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินเพื่อการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
  • ต่อมา GNH ลดทุนจดทะเบียนเป็น 1.25 ล้านบาท เพื่อรักษาสัดส่วนผู้ถือหุ้นตามที่ได้เรียกชำระ 29 เมษายน 2552
  • HLM ได้รับรางวัล Export Logistics Model Award (ELMA) 2009 ประเภทการจัดการด้านการให้บริการโลจิสติกส์ของธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ จากกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์
  • TAX ได้รับรางวัล Top Cargo Agent Award จาก Emirates SkyCargo.
2553
  • เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2553 กลุ่มผู้บริหารของกลุ่มบริษัทเข้าร่วมลงทุนกับนักลงทุนชาวสิงคโปร์ จัดตั้ง บริษัท ดีจี แพคเกจจิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (DGP) เพื่อประกอบธุรกิจ จัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์และให้บริการรับบรรจุสำหรับสินค้าอันตรายที่ใช้ในการขนส่งสินค้าทางอากาศ โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1.0 ล้านบาท
  • บริษัท ทริพเพิล ไอ คอนเทนเนอร์ ดีโป้ท์ จำกัด (“TCD”) จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2553 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการรับฝากเก็บและดูแลตู้คอนเทนเนอร์ด้วยทุนจดทะเบียน 5.0 ล้านบาท
  • ในเดือนตุลาคม 2553 GNH ลดจดทะเบียน 1.25 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 2.5 ล้านบาท
  • กลุ่มผู้บริหารของกลุ่มบริษัทร่วมลงทุนกับนาย ชิเกโมริ ฮาตาโน นักลงทุนชาวญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท ทริพเพิล ไอ คานาซาว่า โลจิสติกส์ จำกัด (“TKL”) (เดิมชื่อบริษัท ไทยคานาซาว่าโลจิสติกส์ จำกัด) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2553 เพื่อประกอบธุรกิจรับบริการจัดการขนส่งระหว่างประเทศ ด้วยทุนจดทะเบียน 5.0 ล้านบาท
  • TAX ได้รับรางวัล Top Cargo Agent Award จาก Emirates SkyCargo.
  • TAC ได้รับรางวัล 3rd Place Airline of the Year 2010, in Thai Air Asia by BFS Cargo
2554
  • บริษัท ทริพเพิล ไอ บิลดิ้ง จำกัด (“TLB”) จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2554 เพื่อประกอบกิจการใช้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ด้วยทุนจดทะเบียน 5.0 ล้านบาท
  • บริษัท จีเอสเอ คาร์โก เน็ตเวิร์ค จำกัด (“GCN”) จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 เพื่อประกอบธุรกิจ รับบริการจัดการขนส่งระหว่างประเทศทางอากาศ ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
  • กลุ่มผู้บริหารของกลุ่มบริษัทร่วมลงทุนกับนักลงทุนชาวเกาหลีใต้ จัดตั้ง บริษัท ซีเคไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด (CKT) โดยจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ด้วยทุนจดทะเบียน 5.0 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการเดินเรือให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเลผ่านสายการเดินเรือ CK Line
  • HLM ได้รับรางวัล Export Logistics Model Award (ELMA) 2011 ประเภทการจัดการด้านการให้บริการโลจิสติกส์ของธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และรางวัล Prime Minister Export Award 2011 จากกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์
2555
  • ในเดือนตุลาคม 2555 HLM ร่วมทุนกับบริษัท ซีดับบลิวที โลจิสติกส์ พีทีอี แอลทีดี จัดตั้งบริษัท (CWT) เพื่อดำเนินธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ภายในประเทศไทย ด้วยทุนจดทะเบียน 2.5 ล้านบาท
  • ANI ร่วมทุนกับนักธุรกิจชาวพม่า ก่อตั้งบริษัท จีเอสเอ เอเชีย คาร์โก จำกัด (“GSA-MM) ในประเทศพม่า เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2555 ด้วยทุนจดทะเบียน 35.45 ล้านจ๊าด ต่อมาได้รับการแต่งตั้งจากสายการบินแลนชิลีให้เป็นตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน
  • ในเดือนธันวาคม 2555 GCN ทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 4 ล้านบาท
  • HLM ได้ร่วมทุนกับนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ จัดตั้งบริษัทร่วมค้าชื่อ บริษัท ฮาซเคม โลจิสติกส์ แมเนจเมนท์ พีทีอี แอลทีดี (HLM-SG) เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2555 เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการด้านการขนส่งสินค้าเคมีและสินค้าอันตรายในสิงคโปร์ ด้วยทุนจดทะเบียน 100,000 ดอลลาร์สิงคโปร์
  • TAX ได้รับรางวัล Export Logistics Model Award (ELMA) 2012 ประเภทผู้ให้บริการขนส่งสินค้า หรือธุรกิจขนส่ง จากกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์
2556
  • บริษัท ทริพเพิล ไอ ซัพพลายเชน จำกัด (TSC) จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อประกอบธุรกิจบริการขนส่งสินค้าภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงด้านการบริหารคลังสินค้า ด้วยทุนจดทะเบียน 5.0 ล้านบาท
  • GNH ร่วมกับนักธุรกิจชาวพม่า ลงทุนจัดตั้งบริษัท จีเอสเอ คาร์โก เน็ตเวิร์ค (เมียนมาร์) จำกัด (“GCN-MM”) ในประเทศพม่าขึ้นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 ด้วยทุนจดทะเบียน 47.3 ล้านจ๊าด
  • TAX เริ่มให้บริการขนส่งขนส่งไปรษณีย์ข้ามภาค และ Super Speed ทั่วประเทศแก่ ปณท.
  • ANI ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าของสายการบินเจจูแอร์
  • บริษัท เอเชีย กราวด์ เซอร์วิส จำกัด (AGS) จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2556 เพื่อประกอบธุรกิจการให้บริการคลังสินค้าและบริการภาคพื้นในท่าอากาศยาน ด้วยทุนจดทะเบียน 25.0 ล้าน
  • ผู้ถือหุ้นหลักของกลุ่มบริษัทฯ ร่วมลงทุนในบริษัท เอ็กเซล แอร์ จำกัด (“ECA-BKK”) ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2556 เพื่อประกอบธุรกิจตัวแทนสายการบิน ด้วยทุนจดทะเบียน 2.0 ล้านบาท โดยเข้าซื้อหุ้นสัดส่วนร้อยละ 30.0 ของทุนจดทะเบียนของ ECA-BKK เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556
2557
  • ผู้ถือหุ้นหลักของกลุ่มบริษัทฯ ร่วมลงทุนใน บริษัท สกาย์ สตาร์ ทรานสปอร์ต จำกัด (“SST”) เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อประกอบธุรกิจการบริการขนส่งตู้สินค้า ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
  • บริษัท ทริพเพิล ไอ จีเอสเอ คาร์โก จำกัด (“TGC”) จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2557 เพื่อประกอบธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางอากาศ ด้วยทุนจดทะเบียน 5.0 ล้านบาท และได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าของสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์
  • TAC ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าของสายการบินภูฏานแอร์ไลน์
  • HLM ได้ร่วมทุนกับบริษัท อาร์ แอนด์ เค ทรานเซอร์วิส จำกัด จัดตั้ง บริษัท ฮาซเคม ทรานส์ แมเนจเมนท์ จำกัด (HTM) เพื่อให้บริการขนส่งและกระจายสินค้าสำหรับสินค้าอันตรายในประเทศ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2557 ด้วยทุนจดทะเบียน 5.0 ล้านบาท
2558
  • ในเดือนกันยายน 2558 TLG จัดตั้ง บริษัท ทริพเพิล ไอ อินเตอร์เนชั่นแนล พีทีอี แอลทีดี (TIL) ขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจการเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินต่างๆ ในต่างประเทศ รวมถึงการดูแลการแต่งตั้งตัวแทนในต่างประเทศ ด้วยทุนจดทะเบียน 100,000 ดอลลาร์สิงคโปร์
  • จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ครอส บอร์เดอร์ เคอเรียร์ จำกัด (“CBC”) ด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจรับบริการขนส่งสินค้าเร่งด่วนระหว่างประเทศทางอากาศ ประเภทราคาประหยัด
  • ในเดือนพฤศจิกายน 2558 TLB ทำการเพิ่มทุนจดทะเบียน 45 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนบริษัท
  • ในเดือนพฤศจิกายน 2558 TLG ทำการเปลี่ยนชื่อจากบริษัท ทริพเพิล ไอ อินเตอร์เฟรท จำกัด เป็นบริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด และเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 210.0 ล้านบาท เป็น 215.0 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 2,150,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เพื่อทำการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทฯ โดย TLG เข้าซื้อ 14 บริษัท ได้แก่ TAC TGC TAX AGS ANI TMA CKT ECU TSC CBC DGP HLM TCD และ TLB
  • TAX ได้รับรางวัล Best Practices การผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์สู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ ประจำปี 2558 จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
  • TAX ได้รับรางวัล Top Cargo Agent Award จาก Emirates SkyCargo.
  • TAC ได้รับการรับรองเป็นตัวแทนควบคุม (Regulated Agent Certificate) จากกรมการบินพลเรือน
  • TAC ได้รับการการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008 สำหรับการเป็นตัวแทนสายการบิน
2559
  • TAC ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าของสายการบินศรีลังกาแอร์ไลน์
  • TLG ร่วมทุนกับนักลงทุนชาวจีน จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท สกายเจ็ท แอร์ เอ็กซ์เพรส จำกัด (“SKJ”) เพื่อประกอบธุรกิจตัวแทนสายบินให้บริการขนส่งระหว่างประเทศ ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
  • ในเดือนตุลาคม 2559 กลุ่มบริษัทฯ โดย TIL จัดตั้ง บริษัท ทริพเพิล ไอ อินเตอร์เนชั่นแนล เจแปน จำกัด (TIL-J) ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นการขยายธุรกิจการเป็นตัวแทนสายขายระวางสินค้าการบินในประเทศญี่ปุ่น ด้วยทุนจดทะเบียน 5.0 ล้านเยน
  • เพื่อปรับโครงสร้างการดำเนินการในแต่ละกลุ่มธุรกิจให้มีความชัดเจนมากขึ้นและเพื่อขจัดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ทำการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัท โดยทำการจดทะเบียนเลิกกิจการของบริษัทต่างๆ และเข้าซื้อเงินลงทุนในบริษัทต่างๆจากบริษัทย่อย สรุปได้ดังนี้
    • ในเดือนสิงหาคม 2559 จดทะเบียนเลิกกิจการของ SST
    • ในเดือนกันยายน 2559 จดทะเบียนเลิกกิจการของ TLGG GNH TCD TKL GCN
    • ในเดือนตุลาคม 2559 จดทะเบียนเลิกกิจการของ TLB โดย TLB มีการโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่ TLG เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2559
    • ในเดือนพฤศจิกายน 2559 จดทะเบียนเลิกกิจการของ SKJ
    • ในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2559 ทำการซื้อหุ้นของบริษัทร่วมต่างๆ จาก GNH และ GCN ดังนี้
บริษัท บริษัทที่ดำเนินการเข้าซื้อ สัดส่วนการลงทุนร้อยละ เหตุผลหลักในการลงทุน
ANI TLG 59.99% เพื่อเป็นตัวแทนสายการบินให้บริการรับจัดการขนส่งระหว่างประเทศทางอากาศ
ECA-GZ TIL 25% เพื่อเป็นตัวแทนสายการบินให้บริการรับจัดการขนส่งระหว่างประเทศทางอากาศ
Freight-HK TIL 20% เพื่อเป็นตัวแทนสายการบินให้บริการรับจัดการขนส่งระหว่างประเทศทางอากาศ
ECA-HK TIL 20% เพื่อร่วมลงทุนในบริษัท Holding ที่ลงทุนในบริษัทที่ให้บริการขนส่งทางอากาศในประเทศจีน
GCN-MM TIL 50% เพื่อเป็นตัวแทนสายการบินให้บริการรับจัดการขนส่งระหว่างประเทศทางอากาศ
  • TAX ได้รับรางวัล Top Cargo Agent Award จาก Emirates SkyCargo.
  • TAX ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 สำหรับการเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ
  • TLG ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 สำหรับการเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
2560
  • ในเดือนมีนาคม 2560 TMA ทำการเพิ่มทุนจดทะเบียน 7 ล้านบาท เป็น 10 ล้านบาท และชำระแล้ว 5 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนบริษัท
  • ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด ครั้งที่ 1/2560 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2560 ได้มีมติดังนี้
    • มีมติพิเศษให้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด
    • มีมติให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของหุ้นสามัญจากหุ้นละ 100 บาท เป็นหุ้นละ 0.50 บาท
    • มีมติพิเศษให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 307.5 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 615 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
    • มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 10 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
    • มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 160 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
    • มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทจำนวน 4.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิจะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทฯ จำนวน 10,500,000 หน่วย
    • มีมติอนุมัติให้นำหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  • TAC ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าของสายการบิน Thai AirAsiaX สำหรับเส้นทางการบินขาเข้า-ขาออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองในทุกเที่ยวบิน แต่เพียงผู้เดียว
  • AGS ได้รับอนุญาตจากกรมศุลกากร และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ในการเป็นผู้ประกอบกิจการคลังสินค้าระหว่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 โดยมีระยะสัญญา 5 ปี
  • HTM ชำระทุนเพิ่มเติมจากเดิม 2.5 ล้านบาท เป็น 5 ล้านบาท (ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของการหมุนวนเงินดำเนินธุรกิจ
  • TMA ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 สำหรับการเป็นผู้ให้บริการตัวแทนผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
  • CKT ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 สำหรับการเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศ โดยระบบตู้คอนเทนเนอร์
  • TSC ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 สำหรับการเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าภายในประเทศ
2561
  • มกราคม, บริษัท เอเชีย กราวด์ เซอร์วิส จำกัด ได้ขยายธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ โดยเริ่มเปิดให้บริการคลังสินค้าระหว่างประเทศ (International Air Cargo Terminal) ณ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ด้วยพื้นที่ให้บริการขนาด 4,500 ตารางเมตร เพื่อรองรับการเติบโตของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่มีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ภายหลังการปลดล็อคมาตรฐานสนามบินนานาชาติของ ICAO ซึ่งประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการขยายธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดภายในท่าอากาศยานดอนเมืองมากกว่าร้อยละ 70
    ธุรกิจคลังสินค้าทางอากาศนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศของบริษัท เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูงจากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งจากสายการบินที่เป็นพันธมิตรหลักอย่างไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ และสายการบินชั้นนำอื่นๆ ที่มีเส้นทางการให้บริการในสนามบินดอนเมืองอีกด้วย
  • มกราคม, บริษัท ทริพเพิล ไอ มาริไทม์ เอเยนซีส์ จำกัด เริ่มให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยให้กับสายการเดินเรือ Rizhao Port (Hong Kong) Shipping Line สายการเดินเรือรัฐวิสาหกิจของเมือง Rizhao (รื่อจ้าว) ในมณฑลซานตงทางตอนเหนือของประเทศจีน ในปี 2560 โดยเริ่มแรกมีเส้นทางการให้บริการครอบคลุม ใน 3 ประเทศ ได้แก่ จีน (เมืองรื่อจ้าวและเมืองเซี่ยงไฮ้) เวียดนาม (เมืองโฮจิมินห์) และไทย (ท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือกรุงเทพฯ)
  • มิถุนายน, บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ใช้เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ประมาณ 267 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการร้อยละ 50 ในบริษัท DG Packaging Pte. Ltd. (DGPS) ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศสิงคโปร์ที่ดำเนินธุรกิจจัด จำหน่ายบรรจุภัณฑ์และให้บริการรับบรรจุสำหรับสินค้าอันตรายที่ใช้ในการขนส่งสินค้ามีเครือข่ายธุรกิจครอบคลุม 18 ประเทศใน 5 ทวีป
    การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการลงทุนที่จะสร้างผลกำไรและกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่องในระยะยาวให้กับบริษัท ยังเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ ด้วยการขยายธุรกิจในต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของโลก ช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตและต่อยอดทางธุรกิจในอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์สำหรับสินค้าอันตรายในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียน
  • สิงหาคม, การขนส่งสินค้าในเส้นทางที่สายการเดินเรือ Rizhao ให้บริการมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นสายการเดินเรือรายเดียวประเทศไทยที่ให้บริการตรงสู่เมือง Rizhao ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองอุตสาหกรรมหลักของจีน นอกจากนี้การเป็นผู้ให้บริการแต่เพียงผู้เดียว (Single Operator) ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างคล่องตัว ส่งผลให้อัตราการขนส่งสินค้าเป็นไปตามตารางการเดินเรือ บริษัทจึงมีการปรับเส้นทางการขนส่งสินค้า โดยเพิ่มเส้นทางขาออกไปยังเวียดนาม เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนส่งสินค้าให้มากขึ้น และเปลี่ยนไปใช้เรือที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด โดยสามารถให้บริการได้มากถึง 1,800 TEUS ต่อเที่ยว
2562
  • มกราคม, บริษัทลงทุนในบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นกิจการให้บริการภาคพื้นสำหรับอากาศยานและผู้โดยสาร โดยการเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 14.95 คิดเป็นเงินลงทุน 80 ล้านบาท ซึ่งการเข้าร่วมลงทุนดังกล่าวจะเสริมสร้างโอกาสในการประกอบกิจการภาคพื้นในสนามบิน
  • มีนาคม, บริษัทเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 50 ของบริษัท อราวน์ โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ประเทศฮ่องกง คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 536.8 ล้านบาท ซึ่งดำเนินธุรกิจหลักเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าให้กับสายการบินที่มีความเชี่ยวชาญในภูมิภาคเอเชีย โดยมีบริษัทย่อยอยู่ในประเทศไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง และเวียดนาม ปัจจุบันเป็นตัวแทนให้กับสายการบินต่างๆ มากกว่า 22 สายการบิน ครอบคลุมเส้นทางการบินใน 24 ประเทศ
  • มีนาคม, บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วของบริษัทอีกจำนวน 1,164,544 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,329,088 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวมถึงเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่ออกให้แก่พนักงานครั้งที่ 1 (III-WA) (“ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ”) ตามโครงการ TLG ESOP 2017 โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ได้ใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ภายใต้เงื่อนไขและระยะเวลาการใช้สิทธิครั้งที่ 1 แล้วจำนวนทั้งสิ้น 2,329,088 หน่วย
  • มีนาคม, บริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนขายระวางสินค้าให้กับสายการบิน US Bangla Airlines ให้บริการเที่ยวบินตรงสู่เมืองธากา ประเทศบังคลาเทศ นับเป็นช่องทางในการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ของเส้นทางการบินใหม่ที่บริษัทยังไม่เคยให้บริการมาก่อน
  • พฤษภาคม, ตามที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.17 บาท คิดเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งหมด 103.2 ล้านบาท
  • กรกฎาคม, บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท Excel Air (Cambodia) เป็นสัดส่วนร้อยละ 32 ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วทั้งหมดของ บริษัท Excel Air (Cambodia) เพื่อประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินในกระเทศกัมพูชา โดยมีมูลค่าการลงทุนจำนวน 32,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 1.00 ล้านบาท
  • กันยายน, บริษัทได้มีการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการให้บริการภาคพื้นสำหรับอากาศยานและผู้โดยสาร จากเดิมทางบริษัทมีสัดส่วนการถือครองหุ้นอยู่ที่ร้อยละ 14.95 เพิ่มเป็นร้อยละ 15.86 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดของบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด
  • กันยายน, บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วของบริษัทอีกจำนวน 1,239,343.50 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,478,687 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2562 รวมถึงเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่ออกให้แก่พนักงาน ครั้งที่ 2 (III-WA) (“ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ”) ตามโครงการ TLG ESOP 2017 โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ได้ใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ภายใต้เงื่อนไขและระยะเวลาการใช้สิทธิครั้งที่ 2 จำนวนทั้งสิ้น 2,478,687 หน่วย
  • ธันวาคม, บริษัทได้ลงนามสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นเพื่อเข้าลงทุนในบริษัท เทเลพอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ Teleport Everywhere Pte., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ AirAsia Group Berhad เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 เพื่อดำเนินธุรกิจขายระวางสินค้าสายการบิน และบริการโลจิสติกส์อื่นที่เกี่ยวข้องให้กับกลุ่มบริษัทแอร์เอเชีย โดยในปัจจุบันมีสายการบินในกลุ่มทั้งหมด 9 สาย ได้แก่ สายการบิน Malaysia AirAsia, AirAsia X, Indonesia AirAsia, Indonesia AirAsia X, AirAsia Japan, AirAsia India, AirAsia Philippines, Thai AirAsia และ Thai AirAsia X จากเดิมที่ปัจจุบันบริษัทเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าให้กับสายการบินเฉพาะ Thai AirAsia และ Thai AirAsia X เท่านั้น
2563
  • มีนาคม, บริษัทเข้าลงทุนในบริษัท แกแล็คซี่ เวนเจอร์ส จำกัด (“GV”) โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญ จำนวน 600,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 ของหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวม 70.09 ล้านบาท โดย GV เป็นบริษัทที่เข้าลงทุนในกลุ่มบริษัท Start-up ที่ดำเนินธุรกิจทั้งในด้านโลจิสติกส์และอีคอมเมิร์ซ จึงเป็นส่วนเสริมให้ธุรกิจโลจิสติกส์ที่มีอยู่ของกลุ่มบริษัทให้มีศักยภาพในการขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซและ E-Logistics
  • พฤษภาคม, บริษัทจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท รวมเป็นเงินปันผล จำนวนทั้งสิ้น 91,396,166.25 บาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นไปเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563
  • พฤษภาคม, บริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (“SAL”) จากเดิมร้อยละ 15.86 มาเป็นร้อยละ 58.20 ของหุ้นทั้งหมด โดยซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมมูลค่า 188 ล้านบาท ทั้งนี้ SAL เป็นบริษัทที่เข้าถือหุ้นร้อยละ 51 ในบริษัทบริการภาคพื้นท่าอากาศยานไทย จำกัด (“AOTGA”) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SAL กับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (“AOT”) ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับประกอบกิจการให้บริการภาคพื้นอากาศยานและผู้โดยสาร
  • พฤษภาคม, บริษัทออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 (“iii-W1”) จำนวนไม่เกิน 152,326,944 หน่วยให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิและกำหนดราคาการใช้สิทธิเท่ากับ 6.00 บาทต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยใบสำคัญแสดงสิทธิจะมีอายุการใช้สิทธิเป็นระยะเวลา 3 ปี นับจากวันออกใบสำคัญแสดงสิทธิในวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 การออกใบสำคัญแสดงสิทธินี้เป็นการรองรับแผนการลงทุนในอนาคตของบริษัท โดยบริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 76,163,472 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 307,500,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 383,663,472 บาท
  • พฤษภาคม, บริษัทดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงิน ภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 10,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 1.64 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยเป็นการเข้าซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2563 ถึง 26 พฤศจิกายน 2563
  • กันยายน, บริษัทขายหุ้นบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (“SAL”) จำนวน 913,027 หุ้น (หุ้นสามัญ 873,027 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิ์ 40,000 หุ้น) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 33.20 ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วทั้งหมดของ SAL คิดเป็นมูลค่าที่ขายรวมทั้งสิ้น 157.72 ล้านบาท ให้กับบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน โดยภายหลังจากการขายหุ้นใน SAL ดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีหุ้นใน SAL เป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วทั้งหมด การขายหุ้นดังกล่าวเป็นการเพิ่มความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านไอทีเพื่อร่วมกันต่อยอดขยายศักยภาพการให้บริการของทั้ง SAL และ AOTGA ให้ครอบคลุมและครบวงจรมากยิ่งขึ้น
2564
  • มีนาคม, บริษัทลงทุนซื้อหุ้นสามัญในบริษัท เอ.ที.พี.เฟรนด์ เซอร์วิส จำกัด (SHIPSMILE) จำนวน 10,200 หุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เป็นเงินลงทุนรวม 105.0 ล้านบาท ซึ่ง ShipSmile เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจขายแฟรนไชส์ให้ผู้ประกอบการในการขนส่งพัสดุและเป็นจุดรวบรวมการขนส่งพัสดุภายในประเทศจากบริษัทขนส่งชั้นนำ
  • มีนาคม, บริษัทลงทุนซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัท เมคเซนด์ เอ็กซ์เพรส จำกัด (MAKESEND) จำนวน 120,000 หุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เป็นเงินลงทุนรวม 9.0 ล้านบาท เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์การขนส่งสินค้าภายในประเทศในวันเดียว (Same-day Delivery)
  • เมษายน, บริษัทปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจขายระวางสินค้าสายการบิน (ANI) และแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2564 เพื่อมุ่งสู่การเป็นกลุ่มตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินในภูมิภาค ด้วยความร่วมมือระหว่างบริษัท กับพันธมิตรต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ปัจจุบันที่มีอุปสงค์ในการขนส่งสินค้าทางอากาศสูง เมื่อเทียบกับอุปทานที่ยังไม่สามารถตอบสนองได้จากสถานการณ์การบินในปัจจุบัน
  • พฤษภาคม, บริษัทจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงินปันผล จำนวนทั้งสิ้น 60,130,777.50 บาท โดยได้จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นไปเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564
  • พฤษภาคม, บริษัทขายหุ้นจากโครงการซื้อหุ้นคืน จำนวน 8,000,000 หุ้น เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 คิดเป็นมูลค่ารวม 98,570,440 บาท
  • สิงหาคม, บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท เอ.ที.พี. เฟรนด์ เซอร์วิส (SHIPSMILE) เพิ่มเติมจำนวน 2,720 หุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 8 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ ShipSmile โดยคิดเป็นมูลค่าการลงทุนจำนวน 28.0 ล้านบาท ทำให้บริษัท ถือหุ้นทั้งหมดร้อยละ 38 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ ShipSmile โดย ShipSmile เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจขายแฟรนไชส์ให้ผู้ประกอบการในการขนส่งพัสดุ และเป็นจุดรวบรวมการขนส่งพัสดุภายในประเทศจากบริษัทขนส่งชั้นนำ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสาขากว่า 4,500 สาขา
  • ตุลาคม, บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท ให้ผู้ถือหุ้นไปเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 รวมเป็นเงินปันผลระหว่างกาล จำนวนทั้งสิ้น 60,940,777.50 บาท
  • พฤศจิกายน, บริษัทเข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ANI) มูลค่าเงินลงทุน 300.80 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้า (Joint Venture) ของบริษัท เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้แก่ ANI สำหรับการเข้าซื้อ กิจการกลุ่มบริษัท เอเชีย จีเอสเอ (เอ็ม) เซินดิเรียน เบอร์ฮัด (ASIA GSA(M) Sdn. Bhd.)(“Asia GSA(M)”) ในสัดส่วนร้อยละ 20 ซึ่งประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม
  • พฤศจิกายน, บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท เอ.ที.พี. เฟรนด์ เซอร์วิส (SHIPSMILE) เพิ่มเติมจำนวน ร้อยละ 5.0 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ ShipSmile ทำให้บริษัท ถือหุ้นทั้งหมดร้อยละ 43.0 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ ShipSmile
  • พฤศจิกายน, ในวันที่ 30 พฤษจิกายน 2564 มีผู้ถือหุ้นใช้สิทธิของ III-W1 เพื่อแปลงเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 11,302,200 หุ้น ของบริษัท ราคาใช้สิทธิ์ 6 บาทต่อหุ้น ในอัตรา 1:1
2565
  • กุมภาพันธ์, บริษัทฯ จำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท เทเลพอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด ที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50 (TLP-TH) ให้กับบริษัท เทเลพอร์ต คอมเมิร์ซ (ประเทศไทย) จำกัด (TLP-Com) มูลค่า 13.35 ล้านบาท
  • พฤษภาคม, บริษัทฯ ขายหุ้นบริษัท เอ.ที.พี.เฟรนด์ เซอร์วิส จำกัด (SHIPSMILE) ในสัดส่วนร้อยละ 43 ให้แก่บริษัท สบาย สปีด จำกัด (SBS) คิดเป็นมูลค่า 180.2 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ได้รับสิ่งตอบแทนเป็นเงินสดจำนวน 18 ล้านบาท และเป็นหุ้น SBS ในสัดส่วนร้อยละ 18 เป็นสิ่งตอบแทน โดยภายหลังการดำเนินธุรกรรมดังกล่าว บริษัทฯ ได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใน SBS ในสัดส่วนร้อยละ 18 ซึ่งถือหุ้นในกลุ่มธุรกิจจุดรับส่งพัสดุ และบริการอื่นๆ ซึ่ง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีสาขารวมทั้งสิ้นกว่า 18,500 สาขา
  • พฤษภาคม, บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลรวมประจำปี 2564 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 247,153,770.00 บาท โดยแบ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท โดยบริษัทฯ ได้จ่ายปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นไปเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 รวมเป็นเงินปันผลระหว่างกาลจำนวนทั้งสิ้น 60,940,777.50 บาท และการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2564 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท รวมเป็นเงินปันผลจำนวนทั้งสิ้น 186,212,992.50 บาท โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565
  • พฤษภาคม, ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 มีผู้ใช้สิทธิของ III-W1 (ครั้งที่ 4) เพื่อแปลงเป็นหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวน 20,129,138 หุ้น ราคาใช้สิทธิ 6 บาทต่อหุ้น ในอัตราใช้สิทธิ 1:1
  • สิงหาคม, บริษัทฯ ร่วมกับ Sitthi Logistics Laos Company Limited จัดตั้งบริษัท TSL Logistics Co., Ltd. (TSL) เพื่อร่วมกันพัฒนาธุรกิจตัวแทนผู้ส่งออกและนำเข้าสินค้าระหว่างประเทศทางราง ซึ่งเป็นโครงการขนส่งสินค้าทางรางเชื่อมต่อระหว่าง จีน-ลาว-ไทย โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด 10 ล้านบาท
  • กันยายน, บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปี 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท รวมเป็นเงินปันผลระหว่างกาลจำนวนทั้งสิ้น 96,125,866.95 บาท โดยบริษัทฯได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565
  • พฤศจิกายน, ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 มีผู้ใช้สิทธิของ III-W1 (ครั้งที่ 5) เพื่อแปลงเป็นหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวน 51,693,271 หุ้น ราคาใช้สิทธิ 6 บาทต่อหุ้น ในอัตราใช้สิทธิ 1:1
  • พฤศจิกายน, บริษัทฯ ได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2565 โดยที่ประชุมได้มีมติที่สำคัญซึ่งสรุปได้ดังต่อไปนี้
    • ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้ ANI เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมร้อยละ 80 ของหุ้นทั้งหมดของ ใน ASIA GSA (M) SDN. BHD. (Asia GSA (M)) ผ่าน SUPERIOR GSA PTE., LTD. (SUPERIOR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ANI จากเดิมถือหุ้นร้อยละ 20 และหลังจากทำรายการจะถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 โดยมูลค่าการเข้าซื้อหุ้น Asia GSA (M) ในครั้งนี้คิดเป็นมูลค่า 212.3 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือคิดเป็นประมาณ 5,520 ล้านบาท
    • ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้ปรับโครงสร้างของกลุ่มธุรกิจขายระวางสินค้าสายการบินของกลุ่มบริษัทฯ โดยบริษัทฯ ขายหุ้นที่ถือใน TAC ทั้งหมดในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วทั้งหมด รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นจำนวน ไม่เกิน 168.00 ล้านบาท ให้แก่ ANI โดยแลกกับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ ANI จำนวน 550,798 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 25 บาท ในราคาหุ้นละ 305 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น จำนวนไม่เกิน 168.00 ล้านบาท
    • ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนลงจำนวน 53.50 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 380,817,359.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 380,817,306.00 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายจำนวน 107 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
    • ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 50,775,641 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (Rights Offering) โดยกำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 12.00 บาท ในอัตราจัดสรร 15 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน
  • ธันวาคม, บริษัทฯ จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 46,168,826 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดินตามสัดส่วน (Rights Offering) โดยกำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 12.00 บาท ในอัตราจัดสรร 15 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิจำนวน 46,165,510 หุ้น คิดเป็นเงิน 553,986,120 บาท