'ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์' เผยไตรมาส 1/62 ทำผลงานเติบโตโดดเด่นมีกำไรสุทธิ 42.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 25.9 ล้านบาท ตามยุทธ์ศาสตร์การขยายธุรกิจทั้งการเข้าซื้อกิจการและการร่วมลงทุน ด้านผู้บริหาร 'ทิพย์ ดาลาล' ประเมินแนวโน้มไตรมาส 2/62 สดใส หลังผ่านช่วง Low Season ของธุรกิจส่งออกและนำเข้า ยืนเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20%
นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III เปิดเผยว่าผลประกอบการไตรมาส 1/2562 มีรายได้รวมอยู่ที่ 682.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2% จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 603.0 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาสดังกล่าวทำได้ 42.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.5% จากไตรมาส 1/2561 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 25.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตขึ้นจากทั้งในกลุ่มธุรกิจหลักในปัจจุบันของบริษัท และความสำเร็จจากยุทธศาสตร์การขยายธุรกิจด้วยการเข้าซื้อกิจการและร่วมลงทุน
โดยไตรมาส 1/2562 กลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ มีรายได้เท่ากับ 547.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.3% จากปริมาณการให้บริการที่เพิ่มมากขึ้น โดยหลักมาจากธุรกิจขายระวางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางอากาศ (GSA) ที่ทางบริษัทมีเส้นทางการให้บริการเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2561 เป็นต้นมา นอกจากนั้น บริษัทยังเริ่มรับรู้ผลกำไรจากเงินลงทุนในการเข้าซื้อบริษัท Around Logistics Management Co., Ltd. ประเทศฮ่องกง ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาอีกด้วย โดยในไตรมาส 2/2562 จะรับรู้ผลกำไรได้เต็มไตรมาส
ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเลและทางบก ในไตรมาส 1/2562 มีปริมาณการขนส่งสินค้าเพิ่มมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และยังได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าที่เพิ่มขึ้น จากบริษัท ซีเค ไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอ็กคู่ เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย คาดว่าในไตรมาส 2/2562 ปริมาณการขนส่งสินค้าของสายการเดินเรือรื่อจ้าวจะมีการเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้การที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย และท่าเรือรื่อจ้าว สาธารณรัฐประชาชนจีน มีการลงนามในข้อตกลงท่าเรือพี่น้อง (Sister Port Agreement) ซึ่งนับเป็นการโอกาสที่ดีในการร่วมมือกันส่งเสริมการค้าและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
ส่วนกลุ่มธุรกิจการบริหารจัดการโลจิสติกส์มีรายได้ไตรมาส 1/2562 จำนวน 48.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจาก Key Account ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณการใช้บริการทั้งในส่วนการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งทางอากาศและทางทะเล และการให้บริการโลจิสติกส์ที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการให้บริการจัดส่งสินค้าให้กับกลุ่ม E-Commerce ปรับเพิ่มขึ้น
นายทิพย์ กล่าวต่อว่า กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ในไตรมาส 1/2562 มีรายได้ 133.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เป็นผลจากการให้บริการโดยรวมของกลุ่มธุรกิจโลจิกติกส์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น รวมกับในส่วนของธุรกิจการให้บริการและขายบรรจุภัณฑ์วัตถุอันตรายที่ปรับตัวดีขึ้น และการได้รับผลกำไรเต็มไตรมาสจากเงินลงทุนในการเข้าซื้อกิจการบริษัท DG Packaging Singapore Pte., Ltd. (DGPS) โดยในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทาง DGPS ได้เริ่มให้บริการใหม่ ได้แก่ DG Acceptant Process ซึ่งเป็นกระบวนการตรวจรับสินค้าอันตราย ณ ท่าอากาศยานสิงคโปร์อีกด้วย
ซึ่งในไตรมาส 2/2562 คาดว่าปริมาณการขนส่งสินค้าทั้งทางอากาศและทางทะเล รวมถึงบริการด้านโลจิสติกส์อื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องจะสามารถเห็นแนวโน้มการปรับตัวที่ดีขึ้น โดยปริมาณการขนส่งสินค้าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่กลางถึงปลายไตรมาส 2/2562 เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season ของการส่งออกและนำเข้า
'สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะยังมุ่งเน้นการขยายธุรกิจทั้งในกลุ่มธุรกิจหลักในปัจจุบันของบริษัท รวมทั้งการติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทต่าง ๆ ที่ทางบริษัทได้เข้าซื้อกิจการและร่วมลงทุน โดยคาดว่ารายได้ในปีนี้จะขยายตัว 20% จากปีก่อนที่ทำได้ 2,829.06 ล้านบาท' นายทิพย์กล่าวสรุป